เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจเครื่องจักร ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ
รัฐบาลอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 6 เดือนแรกปี 65 ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 44,000 ตำแหน่ง เผยปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ยังเป็นที่ต้องการมากที่สุด

21 ก.ย.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม - มิถุนายน 2565) ว่ามีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จำนวน 750 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 375,670 ล้านบาท โดยเป็นการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 309 โครงการ คิดเป็น 41% ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมทั้งสิ้น โดยมีมูลค่ารวม 131,580 ล้านบาท คิดเป็น 35% ของมูลค่าการอนุมัติให้การส่งเสริมทั้งหมด ซึ่งอุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหารมีจำนวนโครงการมากที่สุด และอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนมีมูลค่าเงินลงทุนสูงที่สุด ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 สามารถสร้างงานให้คนไทย 43,833 ตำแหน่ง โดยโครงการในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จะมีการจ้างงานมากเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 31% ของการจ้างแรงงานไทย ซึ่งมีการจ้างงานประมาณ 13,575 ตำแหน่ง ตามมาด้วยหมวดอุตสาหกรรมเบา คิดเป็น 19% หรือประมาณ 8,261 ตำแหน่ง และหมวดผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง คิดเป็น 17% ของการจ้างแรงงานไทย หรือ ประมาณ 7,363 ตำแหน่ง

นายอนุชายังกล่าวด้วยว่า ขณะที่ผลการสำรวจความต้องการแรงงานของโครงการที่ออกบัตรส่งเสริมในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2565 พบว่ามีความต้องการแรงงานทั้งหมด 104,314 คน โดยหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีความต้องการแรงงานมากที่สุด คือ 42,308 คน หรือ 41% ของความต้องการแรงงานทั้งหมด รองลงมา คือหมวดผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง โดยหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีขึ้นไปมากที่สุด คือ 4,500 คน หรือ 29% ของความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีขึ้นไปทั้งหมด รองลงมา คือ หมวดผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มีความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีขึ้นไปประมาณ 22% ขณะที่หมวดอุตสาหกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และบริการและสาธารณูปโภค มีร้อยละความต้องการแรงงาน ระดับปริญญาตรี สูงกว่าการศึกษาระดับอื่น โดยมีความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรี 86% และ 72 ของความต้องการแรงงานรวม ตามลำดับ ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่น มีร้อยละความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรี เฉลี่ย 13% ของความต้องการแรงงานรวม

สำหรับแรงงานระดับปริญญาตรีที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ได้แก่ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ 7,232 คน คิดเป็น 47% ของความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรี รองลงมา คือ สาขาบริหารธุรกิจ เป็นจำนวน 5,981 คน คิดเป็น 39% ของความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรี โดยความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีในสายวิศวกรรรม สาขาที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือสาขาวิศวกรรมการผลิต คิดเป็น 18% ของความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีในสายวิศวกรรมทั้งหมด รองลงมาคือ สาขาอุตสาหการ และเครื่องกล ตามลำดับ ขณะที่ความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีในสาขาบริหารธุรกิจ สาขาที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือ สาขาการจัดการและการบริหารองค์กร คิดเป็น 19% ของความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีในสาขาบริหารธุรกิจทั้งหมด รองลงมาคือ สาขาการตลาด และการโรงแรม การท่องเที่ยว/บริการ ตามลำดับ

“โครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ส่งผลสร้างงานให้คนไทยกว่า 4 หมื่นตำแหน่ง โดยโครงการฯ มีความต้องการแรงงานระดับปริญญาตรีมากที่สุด สะท้อนว่าแรงงานไทยระดับปริญญาตรี ยังมีความสำคัญกับตลาดแรงงานโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการลงทุน ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 คาดว่าจะมีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจ้างแรงงานทุกระดับหลากหลายสาขา ตามมาอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและผู้ที่กำลังจะจบการศึกษา ตลอดจนแรงงานระดับ ปวช. ปวส. ม.6 ซึ่งเป็นแรงงานที่เป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญของภาคอุตสาหกรรม ได้ติดตามข่าวสารการจ้างงาน และเตรียมความพร้อมตนเองในการสมัครเข้าร่วมงานกับภาคอุตสาหกรรมต่อไป” นายอนุชากล่าว

อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.thaipost.net/economy-news/225914/